ธนินทร์ เจียรวนนท์ เคยพบกับแจ็ค หม่า ครั้งแรกเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน หม่าเคยชักชวนให้ธนินทร์เข้าร่วมการลงทุน แต่ธนินทร์ตอบปฏิเสธเพราะยังไม่เข้าใจธุรกิจอีคอมเมิร์ซดีพอ ก่อนที่อาลีบาบาเติบโตกลายเป็นเพลทฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ระดับโลก พวกเขาพบกันอีกหลายครั้ง แต่การพบกัน 2 ครั้งล่าสุด ต้นเดือนมกราคมที่ประเทศไทย และปลายมกราคมที่ฮ่องกง กลายเป็นข่าวใหญ่ในแวดวงนักลงทุน โดยสื่อระบุว่าราคาหุ้นบริษัท เจียไต๋ เอ็นเทอร์ไพรส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นแรงกว่า 200% ตอบรับปรากฎการณ์ดังกล่าว
ที่ผ่านมา อาลีบาบาได้ลงทุนธุรกิจ 4 กลุ่มในไทยไปแล้ว ได้แก่
- กลุ่มการเงิน โดยบริษัท แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group)เป็นพาร์ทเนอร์ และผู้ถือหุ้นใน บริษัทแอสเซนด์ มันนี่ (Ascend Money Group) บริษัทฟินเทคของกลุ่มซีพี ภายใต้บริการ ทรู มันนี่
- ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ “ลาซาด้า” ที่มีรายได้รวมในปี 2565 กว่า 2 หมื่นล้านบาท
- ธุรกิจคลาวด์ โดยอาลีบาบาคลาวด์มีแผนเข้ามาเพิ่มการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และยังได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ “ทรูบิสิเนส”
- ธุรกิจโลจิสติกส์ มีการพัฒนาคลังสินค้าในพื้นที่ของบริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ที่ จ.ฉะเชิงเทรา รวมทั้งมีการร่วมลงทุนใน แฟลช เอ็กซ์เพรส ในนาม กลุ่ม eWTP Capital และเปิด Digital Free-Trade Zone ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
และคาดการณ์ว่าจะมีอีก 3 ความร่วมมือใหญ่ๆ ที่แจ็ค หม่าจะจับมือกับซีพีในอนาคตอันใกล้ คือ
- การต่อยอดในด้านบริการทางการเงินจากธุรกิจ Truemoney ไปสู่การขอยื่นขอไลเซนส์ Virtual Bank ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าผู้บริหารของซีพีได้หารือกับธนาคารใหญ่บางแห่งที่เป็นพันธมิตรกันบ้างแล้ว
- การต่อยอดเชื่อมโยงระบบค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ทั้งระบบของไทยที่ซีพีครอบครองเกินครึ่งหนึ่งกับระบบค้าปลีกออนไลน์ การใช้ data technology สมัยใหม่ บวกการเงินดิจิตอล อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะนำไปสู่การครอบครองระบบค้าปลีกและบริการต่างๆอย่างเบ็ดเสร็จ
- การเชื่อมโยงการผลิตทางการเกษตรทั้งปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์โดยใช้เทคโนโลยีดิจิตอล big data เข้ากับระบบค้าปลีก และรวมถึงการให้สินเชื่อ แบบเดียวกับที่อาลีบาบาเริ่มทดลองใช้ในจีน และบริษัทเทคโนโลยีเบอร์ต้นๆของโลกกำลังทดลองในแอฟริกาและอินเดีย
เพราะ ธนินทร์ เจียรวนนท์ + แจ็ค หม่า = การควบคุมเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ